Page 14 - PAAT_Journal_V2-2019
P. 14

PAAT Journal Vol. 2, No. 2, December 2019

                                      ้
                                                                             ้
                                                                             ื
                    กําหนดทิศทางล่วงหนา (Directed Content Analysis) การวิเคราะห์เนอหาแบบสรุปความ (Summative
                                                                                      ื
                                                                                   ู
                                                                                               ้
                                                                                      ่
                    Content Analysis) ทังนจะได้ศึกษาวธีการวิเคราะห์ทังสามแบบนีจากแหล่งข้อมลอนประกอบดวย ซงจะได ้
                                        ี
                                                               ้
                                        ้
                                                                        ้
                                                  ิ
                                                                                                    ึ
                                     ้
                                                                                                    ่
                    นาเสนอโดยสังเขปตามลําดบไปดงน  ้ ี
                     ํ
                                             ั
                                         ั
                                                                                                 ้
                                  ิ
                                                   ้
                           4.1 การวเคราะห์เนอหาแบบดังเดม (Conventional Content Analysis) การวเคราะห์เนือหาแบบ
                                                     ิ
                                          ้
                                                                                         ิ
                                          ื
                                                ่
                                     ั
                                                                           ิ
                                                      ี
                                                                                         ็
                                    ิ
                                                    ่
                    นเหมาะสําหรับการวจยในประเด็นทียังไมมทฤษฎี (Theory) หรืองานวจัยเกียวกับประเดนหรือปรากฏการณ  ์
                     ี
                                                                               ่
                     ้
                                        ่
                                                      ์
                                                ิ
                                                           ้
                                                                                         ั
                                                                            ั
                                    ั
                                                                                              ื
                                                                                              ่
                                                                 ี
                                   ี
                    (Phenomenon) นยงมไมมาก การวเคราะหแบบนีจะไม่มการกําหนดรหส (Code) หรือหวข้อเรอง Category)
                                   ้
                                      ี
                               ่
                    ไวล่วงหนาแตจะเกิดขึนในระหว่างการดําเนนการวเคราะห์ (Hsieh & Shannon, 2005) ซงมขันตอนโดยสรุป
                                     ้
                                                                                             ้
                           ้
                      ้
                                                           ิ
                                                                                          ่
                                                                                            ี
                                                                                          ึ
                                                      ิ
                                                            ่
                         ่
                    ตามที Hsieh & Shannon (2005) ประกอบกับที Bogetz, Abramson, Haftel, Klein, Li, Michelson, &
                                                  ั
                                                                ่
                                          ํ
                                                 ้
                    Simpkin (2017. Online) นาเสนอไวดงตอไปนีคอ (1) อานเอกสารถอดเทปจากการสัมภาษณ์หรือเอกสารอืน
                                                                                                       ่
                                                         ้
                                                    ่
                                                          ื
                                                                                                ื
                                                                                                ่
                                                    ้
                                              ึ
                                              ่
                                                                                ี
                                                   ่
                                                           ่
                                                                    ้
                                                                          ่
                                                                      ู
                       ็
                    ทีเปนข้อมลทีจะนํามาวิเคราะห์ซงในทีนีจะเรียกวาเอกสารขอมลอยางละเอยด หลาย ๆ รอบเพอทําความ
                               ่
                     ่
                            ู
                                        ู
                                                           ู
                                              ่
                    เข้าใจกับเนือหาของข้อมล (2) อานเอกสารข้อมลทีละคา ทีละประโยค ทีละบรรทัด หรือทีละวรรค แล้ว
                             ้
                                                                 ํ
                                                                                                  ้
                                    ่
                    กําหนดคาหรือวลี ทีจะใชแทนความหมายของคํา ประโยค หรือวรรคนัน ๆ แล้วเขียนคาหรือวลนัน ๆ ไวที ่
                                                                                         ํ
                                        ้
                           ํ
                                                                            ้
                                                                                                ี
                                                                                                       ้
                                                           ้
                                                           ี
                                                   ่
                                                                                   ้
                                                                                     ี
                                                                               ึ
                                                                               ่
                                                              ่
                                                                                          ่
                    ขอบกระดาษเอกสารข้อมล คําหรือวลีทีเขียนไว้นถือวาเป็นรหัส (Code) ซงในขันน้เรียกวาเป็นการเปิดรหัส
                                        ู
                    (Open Coding) ทีจะใชเป็นฐานในการลงรหสตอไป (3) ดาเนนการลงรหสตอไปโดยใชรหสทีไดดาเนนการ
                                                                                                 ํ
                                                                                                ้
                                                                     ิ
                                                                                         ้
                                                                              ั
                                                                                ่
                                                                  ํ
                                                                                              ่
                                                       ั
                                                                                           ั
                                                          ่
                                       ้
                                                                                                    ิ
                                   ่
                        ้
                                            ่
                           ็
                                                      ี
                                         ั
                                                                                                    ั
                                                                  ั
                                                                      ่
                                                                                     ้
                                                                               ั
                    ข้างตนเปนฐานทําการลงรหสตอไปโดยอาจมการกําหนดรหสใหมหรือปรับรหสเก่าใหเหมาะสมจนลงรหสเสร็จ
                                 ่
                           ํ
                                                   ั
                                                ่
                                                        ่
                     ้
                                                                                            ่
                    สิน (4) นารหสตาง ๆ มาจัดเป็นกลุมหวข้อเรือง (Category) ตามความสัมพันธ์และความเชือมโยงของรหัส
                              ั
                     ั
                                                              ุ
                             ่
                                                              ่
                                    ึ
                          ่
                                    ้
                                                                                  ี
                                                   ์
                                                    ้
                                                    ี
                                                      ็
                    หวข้อเรืองทีปรากฏขนจากการวเคราะหนเปนทีรวมกลม (Cluster) ของรหัสทีมความหมาย โดยหลักการแล้ว
                                                         ่
                                                                                 ่
                                             ิ
                       ี
                                                                                                      ู
                                                                                                      ่
                                                                        ั
                         ่
                                                                                                   ้
                    จะมกลุมประมาณ 10-15 กลุมเพอให้สามารถรองรับปริมาณของรหส อย่างไรก็ตามจํานวนของกลุมก็ขึนอยกับ
                                          ่
                                              ่
                                              ื
                                                                                               ่
                                           ั
                                             ิ
                                                                    ั
                                        ่
                                                                             ่
                              ์
                            ั
                                                              ั
                    ความสัมพนธของหัวข้อเรืองนกวจัยอาจจะนํามารวมกนแล้วจดจํานวนกลุมให้น้อยลงได้ (5) กําหนดคําจํากัด
                                                                                                       ็
                                                                                                    ั
                                                                                     ็
                                   ่
                                                                          ี
                                                                             ี
                                                                           ่
                             ั
                    ความของหวข้อเรือง และหวข้อเรืองรอง (Subcategory) ในกรณทีมการจัดเปนหวข้อเรืองรองอนเปน
                                                ่
                                                                                       ั
                                           ั
                                                                                             ่
                    ส่วนประกอบของหัวข้อเรือง (Category) รวมถึงรหัสดวย ในการเตรียมการจัดทํารายงานข้อค้นพบจากการ
                                        ่
                                                               ้
                     ิ
                        ้
                                                                                                 ิ
                                                                             ่
                                                                                                        ั
                                                                                                  ั
                    วจยนนแนวทางการกําหนดคําจํากัดความดังกล่าวจะมาจากข้อมูล ขึนอยูกับวตุประสงค์ของการวจยนักวจย
                                                                          ้
                        ั
                      ั
                                                                                 ั
                                                                                                      ิ
                                                                                     ึ
                                                                                     ่
                                                                                                 ั
                                                                                                      ้
                    อาจจะจัดกลุมของหวข้อเรือง (Category) ตามความสัมพนธเพมขึนไปอีกระดับหนงหรือหลายระดบก็ได แต ่
                                                                 ั
                              ่
                                                                        ้
                                                                   ์
                                                                     ิ
                                                                     ่
                                         ่
                                    ั
                                       ั
                                    ่
                    ส่วนใหญแล้วจะยตทีระดบหวข้อเรือง (Subcategory)
                                   ิ
                                          ั
                                 ุ
                           ่
                                               ่
                                                                                                ั
                                                    ิ
                              ่
                                                                                                ้
                                                                                     ี
                                                                                              ั
                            ั
                                                                           ์
                                                                            ้
                                                                            ื
                                          ้
                                                 ั
                                                ิ
                                ้
                           ดงทีไดกล่าวไว้ข้างตน การวจยเชงคุณภาพทีใชวิธการวเคราะหเนอหาแบบนอาจจดระดบชนของ
                                                                ี
                                                              ้
                                                             ่
                                                                     ิ
                                                                                         ั
                                                                                     ้
                    ข้อมลเพมขึนตามที Bogetz, Abramson, Haftel, Klein, Li, Michelson, & Simpkin (2017. Online)
                          ิ
                                   ่
                       ู
                          ่
                             ้
                             ั
                    นาเสนอไว้ดงแสดงในภาพที 1
                                         ่
                     ํ

                                    ั
                    ภาพที 1: การจดลําดบชนของการวเคราะห์เนือหาแบบดังเดมเพมเตม
                                       ั
                                       ้
                                                                        ิ
                         ่
                                                                     ่
                                                       ้
                                                                ้
                                               ิ
                                                                  ิ
                                ั
                                                                     ิ
                                                        6                      สมาคมรัฐประศาสนศาสตร์แหงประเทศไทย
                                                                                                 ่
   9   10   11   12   13   14   15   16   17   18   19