Page 15 - PAAT_Journal_V2-2019
P. 15

PAAT Journal Vol. 2, No. 2, December 2019

                     ่
                    ทมา: แปลจาก Bogetz, Abramson, Haftel, Klein, Li, Michelson, & Simpkin, 2017. Online.
                     ี
                           จากภาพท 1 จะเห็นวาการวเคราะหเนือหาแบบน จะเริมจากการ  ลงรหส (Code) ก่อน ตอจากนัน
                                   ี
                                                       ์
                                   ่
                                                                                    ั
                                                                  ้
                                                                  ี
                                            ่
                                                         ้
                                                                      ่
                                                 ิ
                                                                                                       ้
                                                                                                  ่
                    จงไปสร้าง หัวข้อเรือง (Category) แล้วนาเอาหวข้อเรืองทเกียวข้องสัมพนธหรือเชอมโยงกนตงเปนหัวข้อหลัก
                     ึ
                                                                            ั
                                                                              ์
                                                         ั
                                   ่
                                                                   ่
                                                              ่
                                                                 ่
                                                                 ี
                                                                                    ่
                                                                                               ็
                                                    ํ
                                                                                    ื
                                                                                            ้
                                                                                          ั
                                                                                            ั
                                               ิ
                                  ่
                                                               ิ
                                                    ั
                                                      ิ
                    (Theme) อนถือวาเปนผลของการวจัยทนกวจยนําไปอธบายตอบคําถามการวิจยของตน
                                                       ั
                                                                                 ั
                                                   ่
                                                   ี
                                    ็
                             ั
                           4.2 การวิเคราะหเนอหาแบบกาหนดทศทางล่วงหนา (Directed Content Analysis) การวิเคราะห ์
                                                   ํ
                                                         ิ
                                          ้
                                          ื
                                                                   ้
                                        ์
                                        ี
                                       ี
                              ้
                                                                               ื
                                       ่
                                                                           ็
                                                              ิ
                                ้
                      ้
                      ื
                                                                  ่
                    เนอหาแบบนีใชในกรณีทมทฤษฎี (Theory) หรืองานวจัยเกียวกับประเดนหรอปรากฏการณ์ (Phenomenon)
                                        ้
                                                                                        ิ
                                                                                             ่
                              ิ
                    ทจะทาการวจยอยก่อนแลวแตยังขาดความสมบรณหรืออาจจะมประโยชนทีจะทาการอธบายเพมขึน ในกรณีน   ี ้
                               ั
                                                                                             ิ
                                                                                                ้
                     ี
                     ่
                                                           ์
                         ํ
                                           ่
                                  ู
                                  ่
                                                                              ่
                                                         ู
                                                                                  ํ
                                                                             ์
                                                                     ี
                                             ์
                                               ื
                                      ิ
                                  ี
                                               ้
                                ิ
                                                              ิ
                         ั
                       ิ
                     ั
                                                                     ้
                               ้
                    นกวจยอาจใชวธการวเคราะหเนอหาแบบกาหนดทศทางไวล่วงหน้า (Hsieh & Shannon, 2005) ในการ
                                                        ํ
                                                                                       ี
                                        ํ
                                                                                       ่
                                    ี
                                    ่
                                                                                                    ื
                                                                                         ็
                                                                                                ้
                                                                                     ์
                                                       ้
                                                               ี
                                               ิ
                                                       ื
                                          ี
                                                                   ี
                                                                               ิ
                                          ้
                                                               ้
                                  ั
                           ์
                     ิ
                    วเคราะหในงานวิจยทจะทาน การวเคราะห์เนอหาแบบนจะมแนวทางในการวเคราะหทเปนโครงสรางหรอแบบ
                                                           ่
                                                                                 ั
                                                                                   ิ
                                          ื
                                                             ้
                                          ้
                                                                           ้
                                                  ้
                                                  ั
                                                                                                        ั
                    แผนมากกวาการวเคราะห์เนอหาแบบดงเดมตามทีไดนําเสนอแล้วข้างตน โดยนกวจยจะใชทฤษฎีหรืองานวิจย
                                                                                          ้
                                                     ิ
                                                                                    ั
                                  ิ
                             ่
                      ี
                         ่
                         ู
                                                                        ่
                                                                                         ้
                     ี
                     ่
                    ทมอยก่อนหน้าเป็นแนวทางในการจัดทํารหัส (Code) และหัวข้อเรือง (Category) จากนันนักวิจัยจะจัดทําคํา
                                                                                   ้
                                                                                        ้
                                                 ่
                              ิ
                    จากัดความเชงปฏิบัตการของหัวข้อเรืองโดยใชทฤษฎีทมอยเปนฐานในการจดทาขึนมาใชดาเนนการ (Hsieh &
                                                                                         ํ
                                                                                            ิ
                                                        ้
                                                               ี
                                                              ่
                                                                  ่
                                                                  ู
                                                              ี
                                                                              ั
                                                                                 ํ
                                                                    ็
                     ํ
                                    ิ
                    Shannon, 2005)
                                                        ิ
                                       ์
                                                                                     ้
                           วธการวเคราะหเนือหาแบบกาหนดทศทางล่วงหนาทีจะนําเสนอในส่วนนนอกจากจะอาศัยแนวคิด
                                                                  ้
                                                                     ่
                                         ้
                            ิ
                             ี
                                                                                     ี
                                 ิ
                                                  ํ
                                                          ื
                                                             ้
                                                          ้
                        ่
                                                       ็
                    ตามที Hsieh & Shannon (2005) เสนอไว้เปนเบองตนแล้วจะไดใชผลงานของ Assarroudi, Nabavi, Armat,
                                                                      ้
                                                                        ้
                    Ebadi, & Vaismoradi (2018) มาเป็นแนวทางในการศึกษา เพอกําหนดกระบวนการและวธการวเคราะห  ์
                                                                                              ี
                                                                                                  ิ
                                                                      ่
                                                                      ื
                                                                                             ิ
                                                           ั
                                                                                                     ่
                                                                                    ้
                    เนอหาแบบกําหนดทศทางล่วงหนาทมความกระชบและชดเจนสามารถใชงานไดสะดวกในทางปฏิบัตตอไป
                                                 ่
                                                 ี
                                                                 ั
                                                                              ้
                                               ้
                      ื
                                                                                                    ิ
                      ้
                                    ิ
                                                  ี
                    Assarroudi et al. (2018) ไดศกษาวิธการวเคราะหเนือหาวธนี         ทนาเสนอโดยนักวชาการต่าง ๆ คอ Elo
                                                              ้
                                                                   ี
                                                                    ้
                                                  ี
                                                                             ํ
                                                                                        ิ
                                                            ์
                                                                                                    ื
                                           ้
                                                                           ่
                                            ึ
                                                      ิ
                                                                  ิ
                                                                           ี
                    & Kyngas (2008); Hsieh & Shannon (2005); Zhang & Wildemuth (2009) และ Mayring (2000, 2014)
                    รวมหางานแล้วนํามาบูรณาการขึ้นมาใหม่เป็นวิธีการวิเคราะห์เนือหาแบบกําหนดทศทางล่วงหน้าเป็นแบบของ
                                                                     ้
                        ้
                                                                                    ิ
                                   ่
                                  ี
                                                                     ่
                     ั
                       ิ
                                   ึ
                                                                                                  ่
                                                                                  ื
                                                                                  ่
                                          ้
                                                                                             ่
                                                                                             ี
                                                                                                  ึ
                                                                                                       ้
                                  ้
                                                                                                ่
                                                                                                ึ
                                                         ็
                                     ี
                    นกวชาการคณะนซงม 16 ขันตอน แบ่งออกเปนสามระยะ แตอย่างไรก็ตามเนองจากระยะทหนงซงเป็นขัน
                                                ่
                                                                               ่
                                                                           ่
                                      ่
                                                                                        ้
                    เตรียมการนันส่วนใหญเปนงานทอยในกระบวนการวจัยเชงคณภาพทยงไมก้าวมาถึงขันการวเคราะห์ข้อมล
                                        ็
                                                                  ิ
                              ้
                                                                                                       ู
                                                                           ี
                                                                                             ิ
                                              ี
                                              ่
                                                              ิ
                                                ู
                                                                            ั
                                                                    ุ
                    โดยตรง กล่าวคือ ขันตอนต่าง ๆ เหล่านีจะกระจายไปอยูในกระบวนการดําเนินการวิจัยเชิงคุณภาพขันต่าง ๆ
                                                                ่
                                   ้
                                                                                                  ้
                                                   ้
                                                                         ่
                                    ่
                                                                               ่
                                                ิ
                                                                            ื
                                                            ่
                                                                                        ็
                    เช่น การกําหนดกลุมตวอยางและวธการสุมตวอยาง การสร้างเครืองมอทใชในการเกบข้อมลคือแบบแนว
                                          ่
                                                 ี
                                                      ่
                                                        ั
                                                                                             ู
                                      ั
                                                                                 ้
                                                                               ี
                                                    ั
                                                                             ิ
                                          ื
                                    ็
                                                                           ั
                                                                                       ้
                    ทางการสัมภาษณ์ เปนตน เพอความกระชบและความชดเจนในทางปฏิบตในบทความนีจะกําหนดกระบวนการ
                                                              ั
                                          ่
                                      ้
                                             ิ
                                                                          ้
                                      ํ
                    วิเคราะห์เนือหาแบบกาหนดทศทางล่วงหน้าขึนมาใหม่โดยอาศัยพืนฐานจากงานของ Assarroudi et al.
                                                          ้
                             ้
                                                                              ํ
                    (2018) โดยแบ่งเปน 12 ขันตอนคอ (1) การกําหนดหนวยวเคราะห (2) ทาความเข้าใจเนือหาของขอมล (3)
                                                                                          ้
                                                                                                  ้
                                                                   ิ
                                                                                                    ู
                                               ื
                                         ้
                                   ็
                                                               ่
                                                                         ์
                                                                                                 ่
                                                                               ่
                                      ่
                                 ั
                                                     ํ
                                                                                  ่
                                                                                  ี
                    สร้างตารางของหวข้อเรือง (4) กําหนดคําจากัดความทางทฤษฎีของหวข้อเรืองทสําคัญและหัวข้อเรืองรอง (5)
                                                                          ั
                                ี
                                                                                         ่
                                                               ี
                    กําหนดกฎระเบยบสําหรับการลงรหัสของหัวข้อเรืองทสําคัญ (6) ทดสอบตารางหัวข้อเรือง (7) คัดเลือกและ
                                                           ่
                                                               ่
                                                                                       ์
                    กําหนดตวอยางของแกนกลางของหวข้อเรืองทสําคัญแตละข้อ (8) ดาเนนการวเคราะหข้อมลหลัก (9) การหา
                                                                                 ิ
                              ่
                                                               ่
                                                ั
                           ั
                                                     ่
                                                                         ํ
                                                                            ิ
                                                        ี
                                                        ่
                                                                                           ู
                                                                                                       ่
                                        ั
                                                              ื
                                                           ั
                                             ่
                                                                  ้
                                                                                     ่
                           ิ
                                                 ่
                                                 ี
                                                              ้
                    ข้อสรุปเชงนามธรรมของหวข้อเรืองทสําคัญจากรหสเบองตน (11) การสร้างความเชือมโยงระหว่างหัวข้อเรือง
                                         ั
                                     ี
                            ั
                                  ่
                          ั
                                     ่
                                                                                     ้
                                                                                   ์
                                                               ้
                                                                            ิ
                     ั
                    ทวไปกบหวข้อเรืองทสําคญ (12) การรายงานผลทุกขันตอนของการวเคราะหเนือหาแบบกําหนดทศทาง
                                                                                                    ิ
                     ่
                                     ้
                    ล่วงหน้าและรายงานขอคนพบ
                                       ้
                           4.3 การวเคราะห์เนอหาแบบสรุปความ (Summative Content Analysis) การวเคราะห์เนอหาแบบ
                                  ิ
                                          ื
                                                                                                  ื
                                                                                                  ้
                                          ้
                                                                                         ิ
                                       ้
                                    ่
                                                                                                        ํ
                                                                                                 ่
                    นโดยทัวไปแล้วจะเริมตนจากการระบุและกําหนดจานวน คาหรือบริบทในตวสารหรือข้อความเพอทจะทา
                                                                                                 ื
                                                                    ํ
                     ้
                                                                                 ั
                                                                                                    ่
                                                             ํ
                     ี
                          ่
                                                                                                    ี
                                            ้
                          ้
                                                                                    ู
                    ความเขาใจในบริบทของการใชคําและเนือหาสาระของสารหรือข้อความในตวข้อมล การกาหนดปริมาณหรือ
                                                    ้
                                                                               ั
                                                                                          ํ
                    นบจํานวนดงกล่าวนไมไดเปนความพยายามทจะทําความเข้าใจในตัวสารหรือข้อความ แต่กระทําเพือเป็นการ
                             ั
                                    ้
                                                                                                 ่
                                      ่
                                                       ่
                                                       ี
                                        ้
                                          ็
                                    ี
                     ั
                                                                                                  ิ
                                                              ่
                              ้
                                                                          ํ
                                                           ้
                                                    ่
                                                      ี
                                                 ้
                                                                                            ุ
                                                                                              ้
                                                                                              ี
                                                                                   ้
                    สํารวจการใชสารหรือข้อความเหล่านันวามการใชอยางไร หากการดาเนนการสินสุดลงในจดนการวเคราะห ์
                                                                             ิ
                                                                                                 ่
                                                        7                      สมาคมรัฐประศาสนศาสตร์แหงประเทศไทย
   10   11   12   13   14   15   16   17   18   19   20